วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 12

        ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม 2554 หลักสูตรสังคมศึกษาได้จัดทัศนศึกษาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นการบูรณาการจัดการเรียนการสอน โดยใช้กิจกรรมทัศนศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้  ให้นักศึกษาเล่าบรรยากาศ การเดินทาง สิ่งที่พบและเกิดองค์ความรู้ใหม่ ลงในบล็อกของนักศึกษาและนำเสนอ    ผลงานของนักศึกษาเป็นรายบุคคล เป็นโปรแกรม Slide.com หรือโปรแกรมนำเสนออื่น ๆ ให้นำมาใส่ลงบล็อกของนักศึกษา  และสำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้ไปทัศนศึกษาให้นำเสนอว่าในช่วงเวลาดังกล่าว นักศึกษาทำกิจกรรมอะไร ได้องค์ความรู้อะไร สรุปเขียนลงในบล็อก และนำเสนอผลงานที่นักศึกษาได้ทำ ทำเป็น Slide.com หรือโปรแกรมนำเสนออื่น ๆ ลงในบล็อกของนักศึกษาเช่นกัน
      สรุปงานนักศึกษาจะมี 2 ชิ้น คือ
      1) สรุปเล่าเหตุการณ์การเดินทางและองค์ความรู้ที่พบลงนบล็อกของนักศึกษา 
      2) นำเสนอรูปภาพมีคำบรรยายประกอบรูปภาพ ลงในโปรแกรม Slide.com หรือโปรแกรมอื่น ๆ
ในกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นการศึกษานอกสถานที่ นักเรียนต้องออกแบบเก็บข้อมูลให้ละเอียดมากที่สุด

             
                ในการศึกษาภาคสนามหรือศึกษานอกห้องเรียน  ในวัน  17-23  มกราคม  2554  เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจสิ่งหนึ่งในชีวิต  เป็นสิ่งที่น่าจดจำ  เป็นบทเรียนลำค่าที่หาที่ใดไม่ได้  เพราะเป็นการศึกษาที่เห็นสภาคความเป็นจริงของสถานที่จริง  เห็นถึงความแตกต่างทางด้านภูมิประเทศ  ภูมิอากาศ  ประวัติศาสตร์  แนวคิดทางการเมืองในแต่ละภาค  และความเป็นอยู่อาศัยของคนที่แตกต่างกัน  ซึ่งการศึกษาในตำราจะไม่เห็นภาพเท่ากับการไปศึกษา  การไปอยู่จริง  แต่ถ้าถามถึงความประทับใจในการไปศึกษาภาคสนามในครั้งนี้ที่สุดก็คงเป็นที่ดอยตุง  เนื่องจากเป็นสถานที่ๆสวยงามมากที่สุดจากที่แค่เห็นมา  ในการเดินทางนั้นก็ต้องขึ้นด้วยรถ  ต้องขึ้นเขาสูง...โค้ดเคียวและลาดชันพร้อมกับการขับรถของนายหัวของที่นั้น  ทำให้ตื่นเต้นหัวใจแทบจะอยู่ที่ตาตุ้ม  แต่ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง  แทนที่จะหน้าชิดทุกคนกลับหัวเราะ...  เมื่อไปถึงที่ดอยตุง  เริ่มจากการเข้าไปยังพระตำหนักดอยตุงทางเข้าตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธ์ของเมืองหนาวทั้งเป็นพันธ์ไม้ในประเทศและต่างประเทศ  ล้วนตกแต่งได้เข้ากันเป็นอย่างดี  เหมือนดิฉันเข้าไปอยู่ในโลกแห่งดอกไม้  เมื่อถึงพระตำหนักซึ่งเป็นที่ประทับทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  พอถึงที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าชมข้างในพระตำหนัก  ดิฉันจึงมีโอกาสเข้าไปและเป็นสิ่งที่ประทับใจมากที่สุดที่ได้เข้าชม  เพราะด้านในได้ผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของสวิส  มีการเกาะสลักไม้ตามกาแล  เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่างๆ  ฝีมือช่างชาวเหนือ  ที่พื้นตกแต่งด้วยไม้สักทองที่ทรงได้รับจาการพระราชทาน  ส่วนพนังและเพดานเป็นไม้ที่รีไซเคิลขึ้นมา  เพราะพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  ไม่ทรงโปรดให้ตัดไม้ทำลายป่า  ได้เที่ยวชมห้องต่างๆ  ถ้าจะอธิบายเป็นคำพูดนั้นคงไม่สามารถอธิบายได้  ต่อมาดิฉันก็ได้ไปเที่ยวชมยังสวนแม่ฟ้งหลวง  ที่พระตำหนักหนึกว่าดอกไม้สวยแล้วแต่ที่นี้เหมือนเราอยู่ในโลกแห่งดอกไม้  อยู่ในสวนพฤกษาอยู่ในโลกแห่งความฝัน  เพราะเขาได้เนรามิตสวนดอกไม้ในเทือกเขาได้สวยงามมาก...  มีการจำลองสระน้ำ  น้ำตก  ทำเป็นหอคอยดอกไม้ขึ้นกลางสระ  ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธ์ทั้งดอกกุหลาบ  ดอกกล้วยไม้  ต้นไม้ที่สวยงาม  เติมไปด้วยสีสันที่หลากหลายแห่งดอกไม้นานาชนิด  เติมไปด้วยมนต์เสน่ห์ล้ำลึกของดอกไม้  กลมกลืนกันอยู่ในโอบล้อมของฝืนป่า  ที่เขียวชอุ่มและมีดอกไม้สีสันมากมาย  ทำให้ดูกลมกลืน  และดอยตุงเป็นยอดสูงสุดของดอยนางนอน  ซึ่งดอยตุงอยู่บริเวณหน้าอกของดอยนางนอน
                ความประทับใจถ้าบอกถึงความรู้สึกคงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้ง  7  วันมานี้เริ่มตั้งแต่วันเดินทาง  การมีน้ำใจกันระหว่างเพื่อนกับเพื่อน  ระหว่างนักศึกษากับอาจารย์  ซึ่งมีอะไรก็ช่วยเหลือกันและกัน  ทุกคนดูแลกัน  สวนอาจารย์เป็นกันเองกับนักศึกษามาก  ดูเหมือนเป็นเพื่อนไม่เหมือนเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์  ทำให้การไปทัศนศึกษาในครั้งนี้สนุกสนานกันมากๆๆๆ...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น